เช็กด่วน "กรุงเทพ" จมฝุ่น PM2.5 เกินมาตรฐาน 70 พื้นที่ เขตประเวศหนักสุด
ฝุ่น PM2.5 ในกทม. เกินค่ามาตรฐาน 70 พื้นที่ ค่าเฉลี่ย 85.2 ไมโคกรัม/ลูกบาศก์เมตร เจอสูงสุด เขตประเวศ 105 มคก./ลบ.ม.
สรุปผลการวัด PM2.5 วันที่ 3 ก.พ. 2566 เวลา 05.00-07.00 น. (3 ชั่วโมงล่าสุด) โดย ศูนย์ข้อมูลคุณภาพอากาศกรุงเทพมหานคร
ตรวจวัดได้ 61-116 มคก./ลบ.ม. ค่าเฉลี่ยของกรุงเทพมหานคร 85.2 มคก./ลบ.ม. ค่า PM2.5 มีแนวโน้มต่ำลง เกินมาตรฐานจำนวน 70 พื้นที่ อยู่ในระดับเริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ จำนวน 39 พื้นที่ และส่งผลเสียต่อสุขภาพ ปริมาณ 31 พื้นที่
ทั้งนี้ในเวลา 07.00 น. ตรวจวัดค่าฝุ่นละออง PM2.5 ได้ 61-105 ไมโครกรัม ต่อลูกบาศก์เมตร (มคก./ลบ.ม.) (ค่ามาตรฐานไม่เกิน 50 มคก./ลบ.ม.) โดยมีแนวโน้มต่ำลง เมื่อเทียบกับเมื่อวานนี้ในช่วงเวลาเดียวกัน และพบว่าเกินมาตรฐาน (มาตรฐานไม่เกิน 50 มคก./ลบ.ม.) จำนวน 70 พื้นที่หมายถึงโดยจุดที่มีค่าฝุ่นสูงสุดในพื้นที่ เขตประเวศ ด้านหน้าห้างสรรพสินค้าซีคอน สแควร์ : มีค่าพอๆกับ 105 มคก./ลบ.ม.
ต้นเหตุที่เกี่ยวเนื่อง(คาดการณ์แนวโน้มสภาพอากาศ
ที่ก่อให้เกิดผลเสีย ต่อฝุ่นPM2.5 โดยภาวะทางอุตุนิยมวิทยา) คาดว่าอัตราการระบายอากาศในช่วงวันที่ 2 – 4 ก.พ. 66 จะไม่ดี/อ่อน เพราะว่าเพดานอากาศต่ำ เกิดสภาพการณ์อากาศ ปิดอย่างตลอด ทำให้เกิดการสะสมของฝุ่นละออง PM2.5 มีทิศทางมากขึ้น หรือลดลงสลับ กันในช่วงนี้ สำหรับในช่วงวันที่ 5 – 8 ก.พ.66
คาดว่าอัตราการระบายอากาศจะดีมีฝนบางพื้นที่ จากทิศใต้ และลมตะวันออกเฉียงใต้ พัดนำความชื้น จากทะเลจีนใต้ และอ่าวไทย พัดเข้ามาปกคลุมแทนที่ลมหนาว ส่วนมวลอากาศเย็น ที่แผ่ปกคลุม เริ่มมีกำลังอ่อนลง ทำให้ไทยตอนบน มีอุณหภูมิสูงขึ้น กลางวันอากาศร้อน ทำให้เกิดการสั่งสมของฝุ่นPM2.5 มีลักษณะท่าทางต่ำลง และวันนี้ พื้นที่กรุงเทพมหานคร และปริมณฑลมีหมอก ในตอนรุ่งเช้า โดยมีฝนเฟ้าคะนอง ปริมาณร้อยละ 40 ของพื้นที่
ช่วงวันที่ 2 – 4 ก.พ. 2566 พื้นที่กรุงเทพและปริมณฑลควรจะเฝ้าระวังการสะสมของฝุ่น เพราะสภาพอากาศที่นิ่ง และปิด โดยพื้นที่ที่ควรจะเฝ้าระวัง ได้แก่ พื้นที่กรุงเทพกลาง กรุงธนเหนือ และกรุงธนใต้
จากการสำรวจข้อมูลจุดความร้อน (hotspot) ผ่านดาวเทียม จากหน่วยงาน NASA ไม่พบจุดความร้อนที่ดาวเทียมตรวจพบค่าความร้อนสูงไม่ถูกปกติจากค่าความร้อนบนผิวโลกรอบๆพื้นที่กรุงเทพมหานคร ประชาชนสามารถตรวจสอบข้อมูลคุณภาพอากาศก่อนออกจากบ้าน เพื่อวางแผนการดำเนินการ แนวทางการทำกิจกรรม
โดยเฉพาะอย่างยิ่งในพื้นที่ ที่คุณภาพอากาศอยู่ในระดับเริ่มมีผลเสียต่อร่างกาย/มีผลกระทบต่อสุขภาพ ควรจะลดระยะเวลา หรืองดเว้นแนวทางการทำกิจกรรมกลางแจ้ง
ทั้งนี้ กรณีประชากรพบเห็นแหล่งกำเนิดมลภาวะสามารถแจ้งร่องรอย ผ่านทาง Traffy Fondue
มลพิษฝุ่น กทม. ติดอันดับ 4 โลก สูงระดับสีแดง ให้งดเว้นกิจกรรม ที่จัดกลางแจ้ง
เตือน “กรุงเทพฯ” มลภาวะอันดับ 4 ของโลก กรมควบคุมมลพิษแจ้ง 70 พื้นที่ทั่วทั้งประเทศค่าฝุ่นละออง PM2.5 สูงในระดับอันตรายสีแดง ส่งผลเสียต่อสุขภาพ กำหนดเฝ้าระวัง 3-4 ก.พ.นี้ค่าฝุ่นผงยังสูงสม่ำเสมอ รีบยกระดับลดจุดความร้อน ผลหารือร่วม กทม.ให้ เจ้าหน้าที่ WFH ส่วน กทม.ยังไม่ประกาศ ปิดโรงเรียน แต่ให้งดกิจกรรม กลางแจ้งปัญหาฝุ่นผงจิ๋ว ที่เป็นภัยต่อสุขภาพ อย่างมากกำลังเป็นหัวข้อสำคัญด้านสิ่งแวดล้อม ที่จำต้องรีบแก้ไข
ทั้งนี้ ที่กรมควบคุมมลพิษ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสภาพแวดล้อม เมื่อวันที่ 2 ก.พ. นายปิ่นสักก์ สุรัสวดี อธิบดีกรมควบคุมมลพิษ ในฐานะประธานศูนย์แก้ไขปัญหามลภาวะทางอากาศ แถลงถึงการยกระดับมาตรการเพื่อลดแหล่งกำเนิด PM2.5 และป้องกันผลกระทบต่อสุขภาพอนามัย ว่า เมื่อเวลา 07.00 น. วันที่ 2 ก.พ. วัดค่าฝุ่นขนาดเล็ก PM2.5 ได้ระหว่าง 17-158 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร (ค่ามาตรฐานไม่เกิน 50 มคก./ลบ.ม.)
คุณภาพอากาศอยู่ในระดับค่อนข้างไม่ดีมาก ถึงก่อให้เกิดผลกระทบต่อร่างกาย วันนี้มีพื้นที่สีแดงรวม 70 พื้นที่ทั้งประเทศ ส่งผลกระทบต่อสุขภาพ โดยมากอยู่ในเขต กทม.และปริมณฑล จัดว่าค่าฝุ่นผงสูงติดต่อกันเป็นวันที่สอง มีปัจจัยสำคัญจากสภาพอากาศปิด ลมสงบ การจราจรติดขัด ทำให้ฝุ่นผงสะสมตัวมากขึ้น
อธิบดีกรมควบคุมมลพิษกล่าวว่ากล่าว จากการสำรวจข้อมูลของสำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ หรือจิสด้า (GISTDA) เมื่อวันที่ 1 ก.พ. พบจุดความร้อนทั่วราชอาณาจักรราว 1,200 จุด หัวใจสำคัญสำหรับการลดจุดความร้อนหมายถึงการบริหารจัดการเชื้อเพลิง บางจังหวัดงดการเผาในบางช่วงเวลา ทำให้บางทีเกิดปัญหารุมเผาในบางช่วงเวลาเช่นเดียวกัน
ฉะนั้นการจัดการจัดการเผาก็เลยเป็นสิ่งสำคัญ แต่ละจังหวัดจะมีอำนาจเต็มสำหรับการควบคุมการเผา โดยมีแอปพลิเคชัน Burn Check ใน จังหวัดเชียงใหม่ ใช้แล้ว 100% แต่บางจังหวัดยังไม่ 100% จะต้องผสานความร่วมแรงร่วมมืออย่างครัดเคร่งถัดไป โดยภาครัฐตั้งเป้าหมายลดจุดความร้อนให้ได้ 50-60%
“กรมได้คาดการณ์สถานการณ์ฝุ่นละอองขนาดเล็กในพื้นที่ กทม.และปริมณฑล วันที่ 3-4 ก.พ. พื้นที่ กทม. และปริมณฑลควรเฝ้าระวังการสะสมของฝุ่นละออง เนื่องจากสภาพอากาศที่นิ่งและปิด พื้นที่ที่ควรเฝ้าระวัง ได้แก่ พื้นที่กรุงเทพฯกลาง กรุงธนเหนือและใต้ (พื้นที่ท้ายลม) พื้นที่ 17 จังหวัดภาคเหนือ ควรเฝ้าระวังบริเวณภาคเหนือตอนบนและล่าง โดยเฉพาะช่วงวันที่ 3-4 ก.พ. ช่วง 2 ปีที่ผ่านมาสถิติค่าฝุ่นลดลงในทุกปี แต่ในปี 66 จากการคาดการณ์คาดว่า ค่าฝุ่นอาจรุนแรงกว่าปี 65 เนื่องจากสภาพอากาศจะแล้งมากขึ้น วันที่ 1 มิ.ย. จะมีการปรับเปลี่ยนค่ามาตรฐานฝุ่น PM2.5 ค่าเฉลี่ย 24 ชั่วโมง จากเดิมไม่เกิน 50 มคก./ลบ.ม. ลดลงเหลือ 37.5 มคก./ลบ.ม.”
ดังนั้นการบริหารจัดการฝุ่น PM2.5 ต้องเข้มข้นกันมากขึ้น
ผู้สื่อข่าวกล่าวว่า IQAir | First in Air Quality ที่เป็นเว็บไซต์จัดอันดับคุณภาพอากาศและจัดอันดับเมืองที่มีมลภาวะของโลก กล่าวในเวลา 10.00 น. ว่า กทม.เมืองไทยมีค่าดัชนีคุณภาพอากาศ (Air Quality Index : AQI) สีแดง 192 ทำให้เกิดผลเสียต่อทุกคน คุณภาพอากาศมีมลภาวะเป็นอันดับ 4 ของโลก รองจากเมืองการาจี ประเทศปากีสถาน เมืองลาฮอร์ประเทศปากีสถานและคูเวต
ถัดมา นายปิ่นสักก์แถลงถึงสถานการณ์ฝุ่นละออง PM 2.5 ที่ทำเนียบรัฐบาลว่า ปัจจุบันค่า PM2.5 อยู่ในระดับเกินมาตรฐาน ส่งผลกระทบต่อสุขภาพ โดยเฉพาะประเทศไทยตอนกลาง ภาคเหนือ และภาคอีสาน ภาคใต้ ทั้งนี้ ในวันที่ 5 ก.พ. PM 2.5 จะลดลงอยู่ในระดับปานกลาง
แล้วหลังจากนั้นวันที่ 7 ก.พ.จะลดน้อยลงมาอยู่ในระดับค่ามาตรฐาน ทั้งในพื้นที่ กทม. และ 17 จังหวัดภาคเหนือ นายกฯได้กำชับให้ดำเนินมาตรการป้องกันอย่างเอาจริงเอาจัง ขอความร่วมมือลดการก่อสร้าง การเผาในที่โล่ง แจ้งประชาชนกลุ่มเสี่ยงตรวจสอบ และดูแลตัวเอง ติดตามสถานการณ์ PM 2.5 ผ่านแอปพลิเคชัน Air 4 Thai ส่วนประชาชนในพื้นที่ กทม.ตรวจสอบ ได้ผ่านแอปพลิเคชัน Air Bkk
“สำหรับโรงเรียนในสังกัด กทม.ไม่ปิด ทั้งนี้ ผู้อำนวยการเขตทั้ง 50 เขต มีอำนาจประกาศเป็นเขตเดือดร้อนรำคาญตาม พ.ร.บ.สาธารณสุขฯ จะทำให้ควบคุมการเผาได้ อยากขอร้องไปถึงเรื่องธูป เทียน การเผากระดาษเงิน-ทอง แต่คงบังคับมากไม่ได้ เพราะเป็นเรื่องความเชื่อ รวมทั้งกิจกรรมก่อสร้างที่ กทม.เป็นเจ้าของโครงการด้วย แนะนำช่วงนี้ว่าควรงดออกกำลังกายกลางแจ้ง ช่วงนี้ตนเองก็หยุด หากออกกำลังกายกลางแจ้งต้องใส่หน้ากาก ส่วนตัวออกกำลังกายในห้อง วิดพื้น-จ๊อกกิ้ง” นายชัชชาติกล่าว